Line@ และ Facebook Messenger ต่างกันอย่างไร เลือกใช้ยังไง?

ปัจจุบัน LINE@ และ Facebook Messenger คงเป็นแพลตฟอร์มที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ค้าใช้พูดคุยกับลูกค้ากันมากที่สุดนะคะ แล้วเคยสงสัยกันมั้ยค่ะว่าสรุป การใช้ LINE@ หรือ Facebook Messenger ในการคุยกับลูกค้าอะไรดีกว่ากัน อย่างไร? ควรเลือกใช้อะไร?

เริ่มจาก LINE@ แพลตฟอร์มที่เรารู้จักกันดีค่ะ^^
LINE@ คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถพูดคุยกับผู้ที่ติดตามคุณอยู่บนบัญชี LINE@ ซึ่งสามารถสื่อสารได้ทั้งแบบ

  • ส่งข้อความถึงทุกคนพร้อมกัน (Broadcast)
    คุณสามารถส่งข้อความ รูปภาพ คูปอง และโปรโมชั่น ผ่านแอพพลิเคชัน LINE@ หรือบน PC ไปยังเพื่อนที่ติดตามบัญชี LINE@ ของคุณ และยังสามารถตั้งเวลาส่งข้อความล่วงหน้าได้ด้วยค่ะ^^
  • สื่อสารแบบ 1 to 1 (Message) 
    สามารถพูดคุยกับ Friends แบบ 1 ต่อ 1 ได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับการพูดคุยบนแอพพลิเคชัน LINE ด้วยแอพพลิเคชัน LINE@
  • โพสลงไทม์ไลน์ (Timeline)
    นอกจากส่งข้อความ Push message คุณยังสามารถ โพสต์ บนไทมไลน์ เกี่ยวกับบัญชีของคุณไปยังผู้ติดตามของบัญชี LINE@ ด้วยฟังค์ชั่น Timeline-Home สามารถตั้งค่าให้โพสต์ในไทม์ไลน์พร้อมกับการส่งข้อความได้ด้วยนะคะ

ถ้าเปรียบ LINE@ กับFacebook แล้ว LINE@ นั้นก็จะทำหน้าที่คล้ายๆ กับ Facebook Page ผสมกับ Facebook Messengerนั่นเองค่ะ^^

มาถึงในส่วนของ Facebook Messenger กันบ้าง
Facebook Messenger เป็นแอพพลิเคชันที่ต่อยอดจากระบบMessageของFacebook เพื่อให้ผู้ใช้Facebook สามารถสื่อสารกันผ่านแพลตฟอร์มของFacebookได้ Facebook Messenger คือเครื่องมือที่คุณสามารถใช้เพื่อพูดคุยสื่อสารกับทุกคนที่มี Facebook Account สามารถสื่อสารได้ทั้งแบบ

  • แบบ 1 to 1  และ
  • แบบเป็นกรุ๊ป

ซึ่งถ้าคุณมี Facebook Page ลูกค้าของคุณจะสามารถส่ง Message ผ่าน Facebook Messenger มาเพื่อพูดคุยกับคุณได้นั่นเองค่ะ


โซอี้ข้อสรุปข้อดี/ข้อด้อยของ LINE@ และ Facebook Messenger แบบบ้านๆจากการวิเคราะห์ด้วยความเห็นส่วนตัวแล้วกันนะคะ^^

ข้อดีของLINE@

  • โซอี้คิดว่าคนไทยคุ้นเคยกับ การแชทผ่านLINE มากกว่า Facebook
    ทุกวันนี้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ใช้แอปพลิเคชั่น LINE ไทยเป็นอันดับ3รองจากประเทศญี่ปุ่น และไต้หวัน ถ้าพูดกันในมุมของนักธุรกิจออนไลน์ โซอี้คิดว่า LINE คือแพลตฟอร์มที่คุณสามารถใช้สื่อสารกับลูกค้าเพื่อปิดการขายได้ดีแน่นอนค่ะ
  • LINE@ ทำได้มากกว่า การ Chat สื่อสารกับลูกค้า
    ยิ่งเวลาผ่านไป LINE@ ก็ยิ่งมีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆเพื่อรองรับสำหรับการทำธุรกิจมากขึ้นค่ะ คุณสามารถใช้ฟีเจอร์ต่างๆของ LINE@ ให้เป็นประโยชน์กับธุรกิจออนไลน์ของคุณได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการประชาสัมพันธ์ โฆษณา ขายสินค้า

ข้อเสียของLINE@

  • การสรุปผลวิเคราะห์ข้อมูลยังทำได้ไม่ดีเท่าFacebook
    โซอี้คิดว่าถ้า LINE@ สามารถวิเคราะห์ และสรุปผลของโพสต่างๆได้ว่า ข้อความลักษณะไหนที่คนมีส่วนร่วมด้วยมาก และน้อย จะดีมากเลยหละค่ะ^^

ข้อดีของFacebook Messenger

  • Facebook เป็นSocial Media ที่คนใช้มากที่สุด
    เพราะ Facebookเป็นSocial Media ที่คนใช้มากที่สุด จึงทำให้ Facebook Messenger เป็นแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ และสามารถเข้าถึงคนได้มากค่ะ ทุกคนที่ติดตาม Facebook Pageของคุณส่วนมากจะติดต่อผ่านช่องทางนี้ได้สะดวก และรวดเร็วค่ะ
  • การเชื่อมต่อที่หลากหลาย
    คุณสามารถใช้ Facebook Messenger ควบคู่ไปกับ Facebook Page ของคุณได้ ในหลายๆเครื่องมือ และสามารถใช้ควบคู่ไปกับเครื่องมือในการจัดการ Facebookอื่นๆได้ เช่น Hootsuite นั่นเองค่ะ^^

ข้อเสียของFacebook Messenger

  • ฟีเจอร์ของการสื่อสารยังน้อยกว่า LINE@
    บน Facebook Messenger คุณไม่สามารถ Broadcast หาทุกคนในเวลาเดียวกันได้ ตอนนี้ Facebook Messenger สามารถสื่อสารแบบ 1 to 1 ได้อย่างเดียวค่ะ

สรุป  สำหรับโซอี้คิดว่าทั้ง2แพลตฟอร์มค่อนข้างมีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกัน เฉียดกันไปมา สำหรับโซอี้คิดว่า Facebook Messenger มีประโยชน์ในการการให้ลูกค้า inbox เข้ามาได้สะดวก และรวดเร็ว (ในกรณีที่มาจาก Facebook Page)   จากนั้นโซอี้จะดึงให้ลูกค้าจาก Facebook Messenger เข้ามาใน LINE@ เพื่อคุยและปิดการขายค่ะ ดังนั้นลูกค้าของคุณก็จะติดตามคุณทั้งบน Facebook Page และ LINE@ คุณสามารถประชาสัมพันธ์เรื่องราวต่างๆได้ผ่านทั้ง2ช่องทาง โดยลูกค้าของคุณก็จะไม่พลาดข่าวสารของเพจคุณด้วยหละค่ะ^^

อย่าลืมนำเทคนิคดีดีแบบนี้ไปใช้กันนะคะ
ถ้าชอบแชร์เลยค่า^^

=================

พูดคุย + ติดตาม เรื่องDigital Marketing กับโซอี้

ช่องทางนี้นะคะ https://line.me/R/ti/p/%40digitalshortcut

#โซอี้ #DigitalShortcut #การตลาดออนไลน์

IG : https://instagram.com/p/Ba_YOARH9Wp/